APCO คาดแนวโน้มธุรกิจ Q2/62 เติบโตดี จัดตั้งทีมดูแลการตลาด พัฒนาศักยภาพบุคลากร เผยการให้ความรู้ผ่าน Social Media กระแสตอบรับดี พบข้อมูลยีนยันผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS สามาถรทำให้เชื้ออยู่ในภาวะสงบ เชื่อยอดขายเพิ่มชัดเจน Q3/62 ขณะที่งบ Q1/62 รายได้ 77.38 ล้านบาท กำไร 15.34 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 83.28%

ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2 คาดว่าจะมีทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทได้จัดตั้งทีมดูแลการตลาดโดยเฉพาะ ซึ่งจะเน้นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่านทาง Social Media มากขึ้น ร่วมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งในส่วนของเพจ Facebook และทาง Call center เพื่อให้ข้อมูลผู้บริโภคและสามารถปิดการขายได้

ปัจจุบันบริษัทมีการให้ข้อมูลผ่านช่องทาง Social Media ในเพจ LEARN HIV ให้ข้อมูลสำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS เพจคนไม่แพ้ แนะนำวิธีดูแลตัวเองป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งมีผู้ที่ให้ความสนใจสอบถามข้อมูล และมีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทาง Social Media Call Center 1154 และ BIM Health Center 5 สาขาทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทมีข้อมูลยืนยันแล้วว่าผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS สามารถทำให้เชื้ออยู่ในภาวะสงบ เป็นผลิตภัณฑ์แรกของโลก จึงจะมีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกิดการใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม จากการปรับกลยุทธ์การตลาดและการให้ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ คาดว่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในประเทศเพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะมียอดขายเพิ่มขั้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/62 บริษัทมีรายได้รวม 77.38 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 96.20 ล้านบาท จำนวน 18.82 ล้านบาท หรือลดลง 19.56% และมีกำไรสุทธิ 15.34 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.15 ล้านบาท จำนวน 9.81ล้านบาทหรือลดลง 38.99 %โดยยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 83.28%

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องมาจากการใช้จ่ายที่หดตัวลงของผู้บริโภคต่อเนื่องจากเหตุการณ์ในช่วงปลายปีที่แล้ว อีกทั้งที่ผ่านมา บริษัทมีปัญหาเรื่องข้อจำกัดการโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่งผลให้ยอดขายในแต่ละช่องทางลดลง

ที่มา : สยามรัฐออนไลน์ วันที่ 14 พฤษภาคม 2562