กิจกรรมบริษัท
11 มกราคม 2560

จากงานวิจัยมังคุดในห้องปฏิบัติการ สู่ภูมิสมดุลเพื่อสุขภาพในตลาดโลก

สรุปการเสวนาวิชาการ: จากงานวิจัยมังคุดในห้องปฏิบัติการ สู่ภูมิสมดุลเพื่อสุขภาพในตลาดโลก

  1. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา, บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์, กรุงเทพ, ประเทศไทย
  2. อำไพ ปั้นทอง, บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์, กรุงเทพ, ประเทศไทย
  3. เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, หาดใหญ่, ประเทศไทย
  4. วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, หาดใหญ่, ประเทศไทย
  5. ศิริวรรณ องค์ไชย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่, ประเทศไทย
  6. ศิริทิพย์ วิริยะจิตรา, บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์, กรุงเทพ, ประเทศไทย

apco@apco.co.th

ในปี ค.ศ. 1977 คณะนักวิจัยได้ใช้ความรู้เรื่องเปลือกมังคุดฝนกับน้ำปูนใสใช้ทาแผล หรือต้มกับน้ำเพื่อดื่มแก้โรคท้องร่วง จากตำราสมุนไพรและคำแนะนำของนักการภารโรงคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ มาเพิ่มมูลค่าเปลือกมังคุดที่เป็นมลภาวะเหลือใช้ ให้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพโดยเริ่มสกัดเปลือกมังคุด แล้วพบว่าสารหลักคือ GM-1 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง คณะนักวิจัยจึงประยุกต์ใช้ GM-1 ในครีมรักษาแผลซึ่งพบว่า มีประสิทธิภาพสูง แต่ด้วยข้อจำกัดที่กำหนดไว้ขององค์กรสาธารณสุขในการพัฒนายา นักวิจัยจึงใช้ GM-1 พัฒนาเครื่องสำอาง ชุดรักษาสิว ประทินผิว จำหน่ายในประเทศไทย โดยได้รับการยืนยันจากบริษัทเครื่องสำอางระดับโลกว่า ผลิตภัณฑ์ชุดนี้มีประสิทธิภาพสูง จากนั้นจึงได้เริ่มการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อแก้ไขปัญหาข้อเข่าเสื่อม/ อักเสบ โดยการเสริมฤทธิ์กับสารสกัดจากงาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และ บัวบก เพื่อจะได้ใช้ GM-1 ในปริมาณน้อยลงจนไม่เกิดปัญหาจากผลข้างเคียง แต่ได้สูตรสารผสมที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นทวีคูณ

ในปี ค.ศ. 2007 คณะนักวิจัยได้ร่วมกับสำนักงานวิจัยและพัฒนาการเกษตร แก้ไขปัญหาราคามังคุดตกต่ำด้วยการเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์น้ำมังคุดสำหรับใช้แก้ไขปัญหาข้อเข่าเสื่อมอักเสบ แล้วทดสอบประสิทธิภาพ ในเวลาเดียวกันกับการทดสอบประสิทธิภาพแคปซูลเสริมอาหาร สำหรับข้อเข่าเสื่อม ซึ่งปรากฏผลว่า นอกจากจะมีประสิทธิภาพสูงในการลดปัญหาข้อเสื่อมอักเสบแล้วยังสามารถแก้ไขปัญหา โรคกระเพาะ/ ลำไส้อักเสบ, กรดไหลย้อน และ ภูมิแพ้อากาศได้ อันเกิดจากการที่ GM-1 แสดงฤทธิ์ผ่านเม็ดเลือดขาวในการปรับภูมิคุ้มกันร่างกายให้สมดุล จากงานวิจัยดังกล่าวจึงได้มีการจัดตั้งคณะนักวิจัย Operation BIM (Balancing Immunity) เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพด้วยภูมิสมดุล

ในการทดสอบฤทธิ์ BIM ในสูตรต่างๆ ที่มีต่อเม็ดเลือดขาวที่ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่า

BIM สูตรที่ 1

  • สามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th1, Th9 และ Th17 จึงมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส เนื้องอก และมะเร็ง
  • จากการกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th1 ทำให้ Th1 เด่นกว่า Th2 และ IL-5 ลดลง จึงแก้ไขอาการแพ้อากาศได้ดี
  • จากการกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th1 ทำให้ Th1 เด่นกว่า Th2 และ IL-22 เพิ่มขึ้น จึงแก้ไขอาการ กรดไหลย้อน กระเพาะ/ ลำไส้อักเสบ

BIM สูตรที่ 2

  • ลด TNF-a, IL-6 และ IL-17 จึงแก้ไขอาการเสื่อม/อักเสบของข้อ ตลอดจน อาการแพ้ภูมิตัวเอง เช่น รูมาตอยด์, SLE และ หอบหืด นอกจากนี้ยังสามารถสร้างมวลกระดูกอ่อนระหว่างกระดูกข้อ

BIM สูตรที่ 3

  • ลด TNF-a, INF-g, IL-1-b, IL-6 และ IL-17 จึงทำให้แก้ไขปัญหาอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับตาเกือบทุกอาการ

BIM สูตรที่ 4

  • ลด TNF-a, INF-g และ IL-17 จึงทำให้แก้ไขปัญหาเบาหวาน ทั้งประเภทที่ 1 และ 2

BIM สูตรที่ 5 (น้ำมังคุดสูตรพิเศษ)

  • ลด TNF-a, INF-g, IL-1-b, IL-6 และ IL-17 จึงทำให้แก้ไขปัญหาแพ้ภูมิตัวเอง, อาการผิดปกติที่เกี่ยวกับตาเกือบทุกอาการ แต่เพิ่ม IL-18 จึงป้องกันตาบอดจากจอประสาทตาเสื่อมชนิดเปียก

คณะนักวิจัย ได้จดสิทธิบัตรการใช้ BIM สูตรที่ 1 และ 5 ในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งในทุกส่วนของร่างกาย และ พบว่า BIM สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยมะเร็งที่ใช้เฉพาะสูตร BIM โดยไม่ใช้เคมีและรังสีบำบัด อาการจะดีขึ้นต่อเนื่องโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ด้วยเหตุนี้ คณะวิจัย จึงได้ประกาศโครงการ APCO THAILAND CANCER MOONSHOT 2017 ในขณะที่อเมริกาประกาศโครงการ CANCER MOONSHOT 2020 และได้ข้อสรุปในเบื้องต้นจากผู้เข้าร่วมโครงการนี้ว่า BIM ให้ผลชัดเจนที่สุดในอาการมะเร็งเต้านม จึงได้เริ่มโครงการ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมให้ “รักษาเต้านมไว้ได้ ด้วยภูมิสมดุล”

ในช่วงปี 2010-2012 จากข้อสรุปของนักภูมิคุ้มกันวิทยาว่า เชื้อ HIV ทำลายเม็ดเลือดขาว Th17 มากกว่าเม็ดเลือดขาว Th อื่นๆ ของ CD4 คณะนักวิจัยจึงเริ่มใช้ BIM ที่พัฒนาจากสูตรที่ 1 ในการดูแล ผู้ติดเชื้อ HIV และ ผู้ป่วยเอดส์ และเมื่อประสิทธิภาพของสูตรนี้เป็นที่ประจักษ์จึงได้จัดทำโครงการ ศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อ HIV และ ผู้ป่วยเอดส์ให้ “เพิ่ม CD4 และ ลด HIV รวดเร็ว ด้วยภูมิสมดุล”

กระบวนการพัฒนางานวิจัยไปสู่การสร้างอุตสาหกรรมเพื่อดูแลสุขภาพของมนุษยชาตินี้ อาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับความคิดนอกกรอบในการแก้ไขปัญหาอุปสรรค จึงสามารถประสบความสำเร็จที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ รายละเอียดเหล่านี้จะมีการนำเสนอในระหว่างการเสวนา